Eau de Tenderness
ละมุนได้ทุกไลฟ์สไตล์ ในวันสบายๆของคุณ
เป็นกลิ่นที่อาเตโพเล่ได้แรงบรรดาลใจมาโดยบังเอิญ ซึ่งเกิดขึ้นเร็วมากในวันหยุดสุดสัปดาห์วันหนึ่ง จากการที่ไปนั่งดื่มกาแฟชิลๆที่ คาเฟ่สไตล์วินเทจร้านประจำในย่านนางเลิ้ง old town แต่ทว่าวันนั้น ในระหว่างที่เรานั่งดื่มกาแฟ ทอดอารมณ์ ตามปกติที่เคยเป็น มองดูผู้คนเดินผ่านเข้าออกร้านไปมาอย่างเพลิดเพลิน อยู่ดีๆก็รู้สึกสะดุดตากับลูกค้าหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ผลักประตูเข้ามา คุยกันสนุกสนานกระหนุงกระหนิงเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์บาร์ สั่งเครื่องดื่ม ,ของหวาน นั่งรับประทานพร้อมพูดคุยหยอกล้อกันที่มุมหนึ่งของร้าน คละเคล้ากับบรรยากาศการตกแต่งแบบวินเทจร่วมสมัยของร้าน สิ่งที่อาเตโพเล่รู้สึกว่าละสายตาจากหนุ่มสาววัยรุ่นคู่นี้ไม่ได้เลยคือทั้งสองคนมีความสดใส แบบลูกคุณหนู ทั้งๆที่แต่งตัวสบายๆ ในสไตล์ของตัวเองไม่มีอะไรหวือหวา ไม่ต้องเนี้ยบอะไรมากมายแต่ดูละมุนได้แบบไม่ต้องพยาม อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับเรามากก็คือ ทำไม? ทั้งสองคนนี้ถึงดูสุภาพ เรียบร้อย ละมุน สดใส ดูเป็นคนรุ่นใหม่ที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศแบบวินเทจของร้านได้อย่างไม่เคอะเขิน ช่างดูเป็นความขัดแย้งที่ลงตัวยิ่งนัก จนเราแทบไม่อยากจะละสายตาจากพวกเค้าได้เลย ณ ช่วงเวลานั้น ได้จุดประกายให้อาเตโพเล่ ผุดไอเดียขึ้นมาในหัวได้ทันที หากจะมีน้ำหอมที่สามารถสร้าง signature scent ,สร้างความละมุนได้ทุกไลฟ์สไตล์ สามารถหยิบขึ้นมาใส่ได้ในวันสบายๆของทุกคน มันก็คงจะดี จึงเกิดขึ้นเป็น Eau de Tenderness
มอบความละมุนในสไตล์ลูกคุณหนู ด้วยกลิ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากสัมผัสเบาสบาย ผ่อนคลายจากภาพการเดินเล่นกลางเมืองย่าน Old Town ในวันหยุดท่ามกลางแสงอาทิตย์ปลอดโปร่ง ผูกกลิ่นเปิดด้วยเบอร์กามอท กระวานและส้มโอ ตามด้วยกลิ่นแอคคอร์ดใบชาขาวให้ความรู้สึกชิล โปร่งสบายร่วมสมัย ตีคู่มากับกลีบมะลิที่เบาสบาย ตัดกับกลิ่นสมุนไพรไทยผ่อนคลายของว่านสาวหลง ให้กลิ่นอายของความวินเทจเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยไม้จันทน์หอมและไอริส ให้ความละมุน สะอาด เบาสบายเข้าถึงง่าย เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ใส่ได้ในวันสบายๆ ที่แอบมีกลิ่นอายของความเป็นวินเทจ หรือ โอล สคูล ได้อย่างลงตัว สร้างเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ให้แก่คุณได้เป็นอย่างดี
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์